วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

อัพเดทบล็อกสักหน่อย

ไม่ได้อัพเดทบล็อกนาน ที่หาย ๆ ไป ก็มัวแต่ไปทดลองโน่นนี่อยู่ครับ อีกอย่างก็ความขี้เกียจเข้าสิงครับ 5555 กำไรบ้างขาดทุนบ้าง ก็ยังไม่ไปไหนไกลจากบันไดบ้านเลยครับ ที่เสียไปก็อารมณ์ตัวเองล้วน ๆ และก็นอกระบบ คือแบบว่า ลองนอกระบบดู ว่าระบบมันจะแม่นแค่ไหน 555 เชื่อล่ะครับ ว่าไม่ควรนอกระบบ อิอิอิ ก็คิดว่าได้ระบบที่ตัวเองถนัดล่ะครับ เดี๋ยวขอไปทดสอบสักระยะก่อน ถ้าชัวร์ ๆ จะเอามาเล่าสู่กันฟังอีกครั้งครับ

อาทิตย์นี้ได้ลาหยุดพักผ่อนยาวถึงสิ้นเดือนเลยครับ ก็มีเวลาเฝ้ากราฟกันทั้งวันล่ะครับงานนี้ แล้วเจอกันคับ

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

การควบคุมสติในการเล่นหุ้นเมื่อขาดทุนติดๆกัน : Consecutive losses and the trading psychology spiral


หุ้น จิตหลุด 1
การขาดทุนติดๆกัน และภาวะอาการ “จิตหลุด” ของนักเล่นหุ้น โดย Barry Lutz

ในช่วงที่ตลาดหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ หรือเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาลงนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำกับนักเล่นหุ้นทุกคนนั้น คือการขาดทุนที่มักจะเกิดขึ้นติดๆกันเป็นระยะ สิ่งที่สำคัญที่สุดในช่วงนี้คือการควบคุมอารมณ์และสติของเราให้มั่นคง เพื่อที่จะรักษาวินัยในการลงทุนเอาไว้ และในวันนี้ผมได้นำวิธีการง่ายๆที่อาจช่วยให้คุณควบคุมอารมณ์และสติของคุณได้ดียิ่งขึ้นเมื่อต้องเจอกับตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยครับ

จิตวิทยาการลงทุน

การขาดทุนติดๆกัน และภาวะอาการ “จิตหลุด” ของนักเล่นหุ้น

โดย Barry Lutz

คุณได้เข้าซื้อหุ้นไปสักพักหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นานมันก็เริ่มดิ่งหัวลง หลังจากนั้นคุณจึงตัดสินใจครั้งใหม่ที่จะ Short หุ้น แต่หลังจากนั้นไม่นานมันก็เด้งขึ้นทันที นับรวมแล้วก็เป็นอันว่าคุณขาดทุนติดกัน 2 ครั้งเสียแล้ว และมันทำให้คุณรู้สึกค่อนข้างลังเลขใจเล็กน้อย นั่นทำให้คุณรู้สึกแหยงๆที่จะไม่เทรดหุ้นในสัญญาณครั้งต่อไป และเป็นอย่างที่คุณคิดเอาไว้ นั่นเป็นสัญญาณที่ทำให้คุณได้กำไร! เอาล่ะสมมุติว่ามันแย่กว่านั้นอีก คุณตัดสินใจไล่ซื้อตามมันไป ซึ่งหลังจากที่คุณได้ไล่ซื้อมันไปไม่นานนัก มันก็ดิ่งหัวลงมาและทำให้คุณขาดทุนอีกครั้ง สรุปแล้วในขณะนี้คุณขาดทุนติดกันถึง 3 ครั้งแล้ว..

คุณอาจคิดว่า “โอเค.. ลองอีกครั้งก็ได้ฟระตรู เรื่องอย่างนี้มันเกิดขึ้นได้เสมอแหละวุ้ยยยย”

ในครั้งนี้ คุณตัดสินใจอย่างฉลาดสุดๆ คุณสังเกตได้ว่าตลาดนั้นวิ่งอยู่กรอบแคบๆ มันจะเด้งขึ้นเมื่อเจอกับแนวรับ และเด้งลงเมื่อเจอกับแนวต้าน ดังนั้นในครั้งต่อไป คุณจึงตัดสินใจที่จะซื้อ-ขายเมื่อมันวิ่งไปชนกับกรอบราคา แทนที่จะเล่นด้วยระบบเดิมๆของคุณ

ต่อมานั้น ตลาดได้วิ่งไปคลอเคลียอยู่แถวแนวรับ ซึ่งมันเข้าทางกับแผนการที่คุณได้วางเอาไว้ คุณจึงตัดสินใจ “ซื้อมันซะเลย” แต่แทนที่มันจะเด้งขึ้นเหมือนอย่างที่ผ่านมา ราคาของหุ้นกลับดิ่งทะลุแนวรับไปเสียนี่.. และนี่ไม่เพียงทำให้คุณขาดทุนติดๆกันถึง 4 ครั้ง แต่นี่เป็นการขาดทุนจากการที่คุณแหกระบบที่ดีที่สุดระบบหนึ่งของคุณไป เท่านั้นยังไม่พอ มันยังเป็นสัญญาณที่หากว่าคุณทำตามระบบไปละก็ กำไรในคราวนี้จะกลบการขาดทุนใน 3 ครั้งที่ผ่านมาทั้งหมดเลยทีเดียว

เอาล่ะ เมื่อมาถึงตอนนี้คุณจะทำอย่างไรต่อไป.. “เลิกเล่น?” แล้วพยายามยับยั้งชั่งใจไม่ให้ตัวเองหลงผิดมาเก็งกำไรครั้งใหม่.. โยนคอมพิวเตอร์ทิ้งไปนอกบ้านซะเลย แล้วลืมๆมันไปซะ… นี่เป็นสัญญาณที่กำลังบอกคุณว่า คุณกำลัง “จิตหลุด” แล้วหละครับ

จิตวิทยาการลงทุน

อะไรคือภาวะ “จิตหลุด”

ผมคิดว่าภาวะของอาการ “จิตหลุด” นั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่คุณนั้นได้ยอมรับว่า “การขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของระบบการลงทุนและการเก็งกำไร” ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ แต่การขาดทุนที่สะสมติดต่อกันนั้น ได้ค่อยๆทำให้คุณสะสมความกดดันจนไปถึงจุดหนึ่งที่คุณนั้นไม่สามารถที่จะยอมรับมันได้อีกแล้วนั่นเองซึ่งภาวะอาการ “จิตหลุด” กะทันหันนี้ ทำให้คุณนั้นหน้ามืดและมองข้ามระบบการลงทุนของคุณไป และถูกแทนที่ด้วยอารมณ์จากผลการซื้อ-ขายในครั้งที่ผ่านๆมานั่นเอง และถึงแม้ว่าการ “เลิกเล่น” นั้นจะเป็นสิ่งเดียวที่ดูจะเหมาะสมในช่วงเวลาอย่างนี้ แต่อาการ “จิตหลุด” ของคุณนั้น อาจจะทำให้คุณทำในสิ่งที่คุณไม่คาดคิดไปตามอารมณ์ของคุณก็เป็นได้ และมันอาจเป็นไปอย่างนั้นจนถึงจุดๆหนึ่งซึ่งมันหมดหวังเต็มที จนทำให้คุณนั้นไม่สามารถรับมันได้อีกต่อไปและจำเป็นต้อง “เลิกเล่น” ไปโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม บทความนี้นั้นไม่ได้พยายามที่จะพูดถึงเรื่องของอารมณ์และการเก็งกำไรของคุณ หรือเกี่ยวกับเรื่องของความกลัวซึ่งคอยขัดขวางนักเล่นหุ้นหรืออะไรเทือกๆนั้น เพราะอย่างที่เรารู้ๆกันว่า อารมณ์นั้นเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเก็งกำไรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และคุณต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมมัน หรือไม่เช่นนั้นคุณก็ต้องเลิกเก็งกำไรซะ

นี่เป็นบทความที่เกี่ยวกับการที่โดยปกติแล้วคุณนั้นสามารถที่จะควบคุมอารมณ์และสติของคุณในการเก็งกำไรได้เป็นอย่างดี แต่แล้วจู่ๆก็กลับมีบางสิ่งบางอย่างมาทำให้นักเล่นหุ้นอย่างเราๆเสียการควบคุมไป และเกิดอาการ “จิตหลุด” ขึ้นมานั่นเอง ซึ่งผลจากการขาดทุนติดๆกันหลายๆครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดทุนซึ่งเกิดจากการแหกระบบของนักเล่นหุ้นเองนี่เองที่เป็นต้นเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นนี้

นี่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เฉพาะกับนักเล่นหุ้นหน้าใหม่ หรือนักลงทุนระดับล่างๆ เนื่องจากมันเป็นเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้นกับนักเล่นหุ้นทุกคน ซึ่งไม่ว่าใครก็มีสิทธิที่จะต้องเจอกับช่วงเวลาที่ไม่ว่าเราจะทำอะไรไป ทุกอย่างก็ดูจะผิดที่ผิดทางไปเสียหมด และนั่นทำให้เราเกิดการขาดทุนติดๆกันหลายๆครั้งขึ้นมา ดังนั้น นี่จึงเป็นสถานการณ์ซึ่งเกิดขึ้นได้กับนักเล่นหุ้นทุกคน เพียงแต่ว่านักเล่นหุ้นแต่ละคนแต่ละระดับนั้น จะมีการตอบสนองต่อภาวะเช่นนี้ต่างกันไป

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเจอกับภาวะเช่นนี้นักเล่นหุ้น นาย A. อาจจะเกิดความตื่นตระหนกอย่างรุนแรงและเกิดอาการ “จิตหลุด” ตามมาทันที ซึ่งทำให้เขารู้สึกเสียความมั่นใจของเขาไปและผลที่ตามมาก็คือการขาดทุนที่มากกว่าที่ได้คาดคิดเอาไว้อย่างมากมาย หรือในอีกทางหนึ่งนั้น นาย B. อาจจะเกิดความรู้สึกอยาก “เอาคืน” และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เนื่องจากเขามั่นใจว่ายังไงซะ การเก็งกำไรครั้งต่อไปของเขาจะสามารถทำให้เขากลับมาเท่าทุนเหมือนเดิมได้ แต่แล้วอาการ “จิตหลุด” นี้ก็ยังดังเนินต่อไปพร้อมกับการขาดทุนของเขา และทำให้เขาต้องสูญเสียเงินไปมากกว่าที่เขาได้คาดคิดเอาไว้แต่แรก.. แล้วนักเล่นหุ้นที่ประสบความสำเร็จอย่างนาย C. ล่ะ เขาทำอย่างไรกับภาวะเช่นนี้?

จิตวิทยาการลงทุน

การควบคุมภาวะของอาการ “จิตหลุด” ในการเล่นหุ้น

เมื่อคุณลองคิดไตร่ตรองดูให้ดี คุณจะพบว่า “ทุกครั้งที่อาการ “จิตหลุด” ของคุณได้เกิดขึ้นและคุณสุญเสียการควบคุมสติของคุณไป นั่นจะยิ่งทำให้อาการ “จิตหลุด” ในครั้งต่อไปของคุณเกิดขึ้นเร็วยิ่งกว่าเดิม” นี่เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาหนึ่งที่การเล่นหุ้นกลายเป็นสิ่งที่เจ็บปวดเกินกว่าที่คุณจะทนไหว ซึ่งทำให้คุณไม่อยากเล่นหุ้นอีกต่อไปนั่นเอง

เมื่อลองคิดและไตร่ตรองดูให้ดีอีกครั้ง คุณจะพบว่า “มันเป็นการดีกว่าที่คุณจะเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ในการเล่นหุ้นของคุณ แทนที่คุณจะตัดสินใจเลิกเล่นหุ้นไป” เนื่องจากการเลิกเล่นหุ้นเก็งกำไรนั้น ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เพราะมันไม่ได้ช่วยป้องกันให้คุณไม่คิดที่จะกลับมาลองเก็งกำไรหรือเล่นหุ้นรอบใหม่อีกครั้ง และไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเมื่อคุณต้องเจอกับภาวะขาดทุนติดๆกันอีกครั้ง

ในการที่จะควบคุมสติของคุณให้ได้ ก่อนที่คุณจะเกิดอาการ “จิตหลุด” ขึ้นมานั้น คือการเอาชนะจิตใจและตัวตนข้างในของคุณให้ได้เสียก่อน คุณต้องทำมันและพาตัวเองกลับมาเดินอยู่ในหนทางที่ถูกต้อง แล้วคุณจะได้กำไรชีวิตจากสิ่งที่คุณทำอย่างคาดไม่ถึง เพราะคุณจะรู้ว่าถึงแม้คุณจะต้องเจอกับช่วงเวลาที่โหดร้าย แต่คุณก็จะมั่นใจในตนเองว่าคุณจะข้ามผ่านมันไปได้ และสามารถควบคุมสติของคุณเอาไว้ได้จนไม่ต้องเกิดการขาดทุนที่มากมายอีกครั้ง

วิธีการง่ายๆที่จะช่วยคุณได้ คือให้คุณลองนำสิ่งที่คุณเชื่อว่าเป็นหลักหรือแก่นในการเก็งกำไรของคุณ มาเขียนลงในกระดาษโน้ทเล็กๆแปะไว้กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณเอง โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้คุณระลึกและตระหนักถึงมันอยู่ตลอดเวลา ทำให้สิ่งต่างๆเหล่านี้อยู่ในจิตสำนึกของคุณอยู่ตลอดเวลา แทนที่มันจะไปฝังอยู่ในจิตไต้สำนึกของคุณจนลึกเกินไปนั่นเอง แต่จงระวังไว้ว่าทุกๆครั้งที่คุณได้เขียนโน้ทเอาไว้นั้น ขอให้แน่ใจว่าคุณกำลังเขียนแนวคิดลงไป ไม่ใช่วิธีการ จงอย่ายึดติดกับ”วิธีการ” จนเป็นการทำให้ปัญหาของคุณนั้นย่ำแย่ลงไปกว่าเดิม

ยกตัวอย่างเช่น ลองคิดถึงช่วงเวลาที่อารมณ์ของคุณนั้นพลุ่งพล่านจากการที่คุณได้เกิดการขาดทุนติดๆกัน ภายในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นกำลังเคลื่อนไว้อยู่ในกรอบแคบๆดู แล้วลองเขียนโน้ทลงไปในลักษณะคำพูดแบบนี้ครับ

“อารมณ์บ้าๆนี้อาจจะมาจากการขาดทุนติดๆกันอย่างรวดเร็วของเรา และการขาดทุนติดๆกันอย่างรวดเร็วนี้อาจมาจากการที่เราพยายามเล่นหุ้นในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆนี้ก็ได้ หรือเราอาจกำลังเล่นหุ้นบ่อยเกินไปก็ได้ และไม่มีอะไรที่ได้ผิดพลาดไปในระบบของเราหรอก ตราบใดที่เรายังเล่นหุ้นได้ตามระบบของเราอยู่ ทุกอย่างก็ยังคงปกติและเราก็ยังเล่นหุ้นได้ดีอยู่เหมือนเดิม”

เอาล่ะ หรือไม่คุณอาจลองเปลี่ยนเป็นประโยคอีกประโยคหนึ่ง ซึ่งเขียนออกมาในสถานการณ์เดียวกันดู

“อย่าเป็นไอ้โง่ที่เล่นหุ้นโง่ๆบ่อยเกินไปสิฟะ! เหมือนกับว่ากลัวที่จะขาดทุนในวันนี้เสียเหลือเกิน อย่าทำเหมือนกับทุกๆวันที่ผ่านมา ไม่งั้นเรื่องแบบนี้มันก็จะเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ และไม่จำเป็นต้องรีบร้อนที่จะเล่นหุ้นเกินไปถ้ายังคิดจะเล่นในหุ้นแบบเดิมๆอีก”

จิตวิทยาการลงทุน

จงรักษา “สติ” ของคุณเอาไว้

“รักษาสติเอาไว้” คือประโยคต่อไปในกระดาษโน้ทของคุณ

อีกวิธีหนึ่งซึ่งคุณสามารถทำได้นั้น คือโดยการเขียนโน้ทซึ่งคุณพอจำได้ว่าก่อนที่อาการ “จิตหลุด” ของคุณจะเกิดขึ้นนั้น ได้เกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ยกตัวอย่างเช่น หายใจเร็วขึ้น, เหงื่อออกเยอะ, บิดตัวไปมาอยู่บนเก้าอี้ หรืออาการนั่งไม่ลง และหลังจากที่อาการ “จิตหลุด” ของคุณเริ่มรุนแรงขึ้น เช่น โวยวาย, ขว้างปาสิ่งของ หรือทำลายข้าวของ จนในที่สุดเมื่อคุณเกิดเอาการ “จิตหลุด” แบบเต็มขั้นหรือการตื่นตระหนกอย่างสุดขีด

แน่นอนว่ามันคงจะมีลิสท์รายละเอียดของอาการที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวเหยียดเลยทีเดียว แต่การที่คุณสามารถที่จะตระหนักถึงมันได้เมื่อมันเกิดขึ้นมานั้น อาจช่วยให้คุณเริ่มที่จะสามารถควบคุมมันเอาไว้ได้ ก่อนที่มันจะควบคุมตัวของคุณแทนนั่นเอง

จิตวิทยาการลงทุน

คอยตระหนักอยู่ตลอดเวลา

คุณควรต้องรู้ถึงสิ่งที่มีศักย์ภาพที่จะก่อให้เกิดอาการ “จิตหลุด” ของคุณ มันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการที่คุณจะยอมรับว่าตัวของคุณนั้นมี “อารมณ์” ข้องเกี่ยวอยู่เสมอ และจงอย่าพยายามที่จะมองข้ามมันไป หรือพยายามเก็บมันซ่อนเอาไว้เพราะคุณมองว่ามันคือสิ่งที่แสดงถึงความอ่อนแอของคุณ เพราะนี่จะเป็นสิ่งที่จะทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

คุณเป็นมนุษย์! มนุษย์ทุกคนมีอารมณ์ และอารมณ์จะเข้มข้นขึ้นเมื่อสถานการณ์ต่างๆนั้นเริ่มบีบคั้นขึ้นมา ดังนั้น คุณอาจไม่จำเป็นที่จะต้องรู้หรอกว่าคุณจะทำอะไรเมื่อคุณ “จิตหลุด” และสูญเสียการควบคุณขึ้นมา แต่คุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ หรือจำให้ได้ว่าคุณจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้อาการ “จิตหลุด” นั้นเกิดขึ้นมาอีกครั้ง คุณจำเป็นต้องรู้ว่าอะไรที่จะช่วยให้คุณมี “สติ” อยู่เท่าที่คุณจะสามารถทำได้ ในช่วงเวลาแย่ๆของการเล่นหุ้นซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคต คุณจำเป็นต้องรู้ว่าอะไรจะช่วยให้คุณ “กลับมา” มีสติขึ้นอีกครั้ง

จิตวิทยาการลงทุน

แล้วนักเล่นหุ้นที่ประสบความสำเร็จนั้นทำอะไรบ้าง?

นักเล่นหุ้นที่ประสบความสำเร็จนั้น คือนักเล่นหุ้นที่สามารถที่จะควบคุม ”สติ” ไม่ว่าจะในสถานการณ์ที่เขามีกำไรหรือขาดทุน และมี “สติ” อยู่ในทุกๆเวลา การมี “สติ” นั้นเป็นส่วนสำคัญในการที่จะช่วยในการควบคุมอารมณ์ไม่ให้เกิดอาการณ์ “จิตหลุด “ ในการเล่นหุ้นขึ้นมา นักเล่นหุ้นที่ดีนั้นสามารถที่จะประเมิณการขาดทุนของเขาในรูปแบบของการเกิดขึ้นตามธรรมดาของระบบการลงทุน และนักเล่นหุ้นที่ดีนั้นจะสามารถเล่นหุ้นได้ตามระบบที่ดีของเขาได้ไม่ว่าจะต้องเจอกับช่วงเวลาเลวร้ายเพียงใด และถึงแม้พวกเขาจะเกิดการขาดทุนขึ้นมา พวกเขาก็จะเข้าใจว่ามันต้องเกิดขึ้น พวกเขายอมรับกับ “ความน่าจะเป็น” ที่มันจะต้องเกิดขึ้น และทำตามระบบต่อไป ซึ่งการซื้อ-ขายครั้งต่อไปนั้นอาจจะทำกำไรให้พวกเขาก็ได้

ขอบคุณเจ้าของบทความ : http://www.mangmaoclub.com

Dealing with Drawdowns : จัดการกับการขาดทุนของคุณให้ถูกวิธี


ตัดขาดทุน ห้ามเลือด

การขาดทุนอย่างหนักหรือการที่มูลค่าเงินทุนลดลงอย่างต่อเนื่อง (Drawdowns) เป็นสิ่งที่มีผลต่อจิตใจของนักเล่นหุ้นอย่างพวกเราแต่ละคนไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม ผมเองเห็นว่าหลายๆคนมักที่จะหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญกับความจริง หรือแม้แต่คอยที่จะหลอกตัวเองเพื่อให้พ้นจากความรู้สึกแย่ๆอยู่เสมอ นี่เป็นสิ่งที่มีความอันตรายอย่างมาก และจะส่งผลต่อพฤติกรรมการเล่นหุ้นในวันข้างหน้า วิธีการต่อไปนี้จึงเป็นแนวทางเบื้องต้นที่จะช่วยให้คุณรู้จักรับมือกับการขาดทุนได้อย่างเหมาะสมกันยิ่งขึ้นครับ

1. ห้ามเลือดเสียก่อนเป็นอันดับแรก

คุณต้องกล้าตัดขาดทุนอย่างทันที! หรืออย่างน้อยต้องพยายามทยอยขาย และลดการถือหุ้นของคุณให้น้อยลงมาเสียก่อน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นสิ่งที่พูดง่ายแต่ทำค่อนข้างยากอยู่พอสมควร โดยเฉพาะในเวลาที่คุณต้องเผชิญกับสถานการณ์การขาดทุนอย่างหนัก (เพราะคุณจะหน้ามืดพอสมควร) แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำที่สุดเมื่อช่วงเวลาแบบนี้มาเยือน อย่าพยายามหาข้ออ้างกับตัวคุณเอง ในเมื่อสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไม่เป็นอย่างที่คุณคิด คุณก็ควรต้องยอมรับความจริงให้ได้ … จริงไหมครับ?

2. รับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และบอกให้ใครบางคนได้รับรู้

อย่าพยายามปกปิดมันเอาไว้ คุณต้องซื่อสัตย์กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวของคุณเอง หรือรวมถึงคนอื่นๆที่คุณอาจกำลังรับบริหารพอร์ทการลงทุนของพวกเขาอยู่ การรายงานสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นไม่จำเป็นต้องทำอย่างเป็นทางการก็ได้ สิ่งสำคัญคือความจริงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ต่างหาก การทำเช่นนี้นั้นมีผลในแง่จิตวิทยาการลงทุนของคุณมากทีเดียวครับ เนื่องจากมันจะเป็นการบังคับให้คุณต้องยอมรับที่จะเผชิญกับความจริงไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ซึ่งจะเป็นผลดีในระยะยาวกับตัวของคุณเอง การได้ระบายให้ใครสักคนที่คุณไว้ใจได้รับรู้ (พ่อ, แม่, แฟน, น้อง, เพื่อน …หรืออื่นๆ) จะช่วยให้ไม่เกิดรอยแผลที่จะคอยย้ำอยู่ในจิตใจของคุณ ซึ่งสุดท้ายมันจะกลายเป็นสิ่งที่สร้างพฤติกรรมของคุณจากสิ่งที่คุณพยายามปิดบังอยู่ (เก็บกดนั่นเอง)

3. เผชิญหน้ากับการขาดทุน

โดยปกติแล้ว เมื่อสถานการณ์การขาดทุนเริ่มที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักเล่นหุ้นโดยส่วนใหญ่มักที่จะพยายามมองข้าม หรือหลีกเลี่ยงที่จะรับรู้ต่อการขาดทุนเหล่านั้น (เรามักจะหาเหตุผล หรือความเห็นต่างๆนาๆเพียงเพื่อที่จะทำให้เราไม่รู้สึกแย่ไปกับมัน) แต่การกระทำเช่นนี้ไม่ได้ก่อประโยชน์อะไรเลยกับตัวของคุณเอง ซ้ำร้ายมันยังทำให้คุณไม่เกิดการพัฒนาใดๆขึ้นมาอีกด้วยในวันข้างหน้า เพราะมันคือการทิ้งโอกาสที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดของคุณไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น สิ่งที่คุณควรทำหลังจากที่เกิดการขาดทุนหนักๆหรือต่อเนื่องขึ้นมา ก็คือการย้อนกลับไปเผชิญหน้ากับผลการลงทุนของคุณซะ อาจเป็นการย้อนดู Report ที่เกิดขึ้นสักเดือนหรือสองเดือนย้อนหลังไปก็ได้ และจดจำสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเอาไว้ให้ชัดเจนที่สุด

4. ย้อนกลับไปทำความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง

เมื่อคุณกล้าที่จะเผชิญกับความจริงที่เกิดขึ้นกับคุณได้แล้ว ให้คุณลองนั่งพิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด จินตนาการกลับไปถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้นตามลำดับ ว่ามีอะไรที่ผิดพลาดไปบ้าง ทั้งในแง่ของแผนการลงทุนหรือแม้แต่จิตใจและความนึกคิดของตัวคุณเอง คุณต้องพยายามระบุมันออกมาให้ได้ว่าสิ่งเหล่านี้แท้จริงแล้วเกิดขึ้นมาจากอะไร จงซื่อสัตย์กับตัวของคุณเองมากที่สุด คุณต้องไม่หลอกตัวเอง หลังจากนั้นคุณต้องรู้จักวางแผนเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของคุณให้ดีที่สุด

pdsp-triangle-largeNote: อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณมองลงไปที่ระบบการลงทุน คุณต้องเข้าใจสภาพวะอย่างหนึ่งในตลาดหุ้น ซึ่งเป็นเรื่องของความน่าจะเป็นอยู่ส่วนหนึ่ง อย่าตกเป็นเหยื่อของ Outcome Bias หรือผลการเทรดเพียงไม่กี่ครั้ง ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดการขาดทุนขึ้นได้บ้างเป็นเรื่องธรรมดา คุณควรที่จะมองไปที่ภาพใหญ่เมื่อคิดถึงระบบการลงทุนของคุณ (อย่างน้อยคุณควรจะสรุปผลหลังจากที่เกิดการซื้อขายไปแล้วมากกว่า 30 – 35 ครั้ง) ไม่เช่นนั้นสิ่งทีเกิดขึ้น จะกลายเป็นการพยายามไล่ล่าหา Holy Grail ซึ่งไม่มีอยู่จริง และการเปลี่ยนระบบการลงทุนไปๆมาๆ จะไม่ช่วยทำให้อะไรดีขึ้น!

5. พัฒนาและปรับปรุงแผนการปฏิบัติการในการเล่นหุ้นของคุณ

หากคุณค้นพบได้แล้วว่าสิ่งใดที่ทำให้เกิดความผิดพลาดหรือขาดทุนต่อเนื่องขึ้นมา คุณต้องสร้างแผนที่จะรับมือกับมันขึ้นมาอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น หากว่ามันเป็นปัญหาที่เกิดจาก “วินัย” ของคุณเอง คุณจะทำอย่างไรกับมันบ้าง? แต่หากว่ามันเป็นปัญหาจากระบบการลงทุนของคุณ คุณจะทำอย่างไรกับมัน? คุณจะทิ้งมันไป … หรือคุณจะทำการวิจัยและทดสอบมันให้ลึกมากขึ้น? หรือหากว่ามันเป็นผลจากสภาพแวดล้อมภายนอกเช่น Platform การซื้อขายของคุณ คุณจะทำอย่างไรกับมัน?

นี่คือตัวอย่างของสิ่งต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ และคุณต้องเรียนรู้ที่จะปรับปรุงแก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้น อย่าปล่อยให้สิ่งต่างๆผ่านเลยไป หรือปล่อยให้มันเกิดขึ้นซ้ำๆ โดยที่คุณไม่ได้หาหนทางแก้ไขหรือรับมือกับมันเอาไว้นำปัญหาเหล่านี้มาคิดให้ตก และเขียนแผนรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเอาไว้เสีย

สุภาสิตไทยบอกไว้ว่า “เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือ … (เจ้าฉงน)” นะครับ Open-mouthed smileอย่ามันแต่แก้ตัวหรือขอความปราณีจากตลาดไปเรื่อยๆ ความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่การไม่รู้จักแก้ไขความผิดพลาดต่างหาก ที่ทำให้ให้ทุกอย่างย่ำแย่ลงไป รีบแก้ไขเสียก่อนจะไม่เหลืออะไรให้แก้นะครับ ขอให้โชคดีทุกคนครับ

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก http://www.mangmaoclub.com

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

วิเคราะห์กราฟรายวัน

ห่างหายจากการอัพเดทบล็อกมาเป็นอาทิตย์เลย มัวแต่ลุ้นกราฟ หลังจากติดดอยมาเป็นอาทิตย์ สุดท้ายก็ไม่รอดอีกครั้งนึงครับ ไม่เป็นไร บทเรียนนี้ทำให้เราเห็นอะไร ที่ผิดพลาดเยอะ ก็คงต้องพัฒนา ปรับปรุงกันต่อไปครับ ถามว่าท้อไหม ผมบอกเลยว่า ผมไม่ท้อ และไม่ถอยเด็ดขาด หนทางมีไว้ให้ฝ่าฟัน เป็นเรื่องที่น่าค้นหา และท้าทายสำหรับผมมาก ๆ และผมเชื่อว่า ผมจะต้องทำมันให้ได้….

เอาละ วันนี้วันอาทิตย์ เลยมีเวลามานั่งดูกราฟ ว่าเกิดอะไรขึ้นจากที่ผ่านมา แล้วอาทิตย์หน้าจะเป็นอย่างไร อธิบายไม่เป็น ดูรูปเลยแล้วกันครับ…อิอิ

eu-12092554

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

นานแสนนาน

หลังจากที่เปิดออร์เดอร์ไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มาอาทิตย์นี้ก็ยังไม่สามารถปิดได้เลย แถมยังจะลงต่อไปได้อีก ขืนเป็นแบบนี้ตายอย่างเดียวเลย ไหน ๆ เราก็ปล่อยมาขนาดนี้แล้ว ก็คงไม่มีอะไรจะเสีย ปล่อยให้กราฟมันวิ่งของมัน ดูสิว่ามันจะยังวิ่งทางเดิมหรือเปล่า ขืนวิ่งทางเดิม คงตายสถานเดียวครับ ใจจริงก็อยากให้มันเปลี่ยนทางได้แล้วน่ะครับ เพราะมันลงมาเยอะแล้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมค่าเงินยูโร มันเน่าได้ขนาดนี้ อะไรทำให้เป็นแบบนี้….

ในช่วงที่รอปิดออร์เดอร์ที่ค้าง เมื่อวานนี้ก็ฝากเงินเข้าอีก $200 หรือ 7,200 บาท (คิดที่ 36 บาท/ดอลล่าห์) แต่ฝากเข้าอีกแอคเค้าท์ เป็นบัญชี Standard ของ FXOpen ซึ่งเป็นบัญชีหลัก และผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับ ว่าจะทำให้พอร์ตนี้เติบโตให้ได้ สู้โว้ยยยยย….

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554

การรอคอยที่แสนยาวนาน

ไม่ได้อัพเดทมาเป็นอาทิตย์เลยทีเดียวเชียว เพราะตั้งแต่วันจันทร์มา ผมก็จัดบายไปสามไม้ ตรงยอดดอยโน่นเลย แล้วกราฟมันก็ร่วงเอา ๆ ทำท่าจะดีด แต่ก็ไม่เป็นผล ดันร่วงลงไปอีก เอาไงดีหว่าเรา ตะลึงครับพี่น้อง ทำอะไรไม่ถูก ประมาณช่วงกลางสัปดาห์ ก็มานั่งไล่กราฟดู ทำไมเราไม่ชอตลงมาตามกราฟน่ะ ทำไมต้องรอให้มันขึ้นมาปิดอย่างเดียว แทนที่จะชอตเติมจิ้นไปเรื่อย เออ…แปลกมั้ย ทำไมต้องรอ นั่นนะสิ ผมถามตัวเองตลอด ว่าทำไม ทำไมไม่ปิด ทำไมไม่คัทลอส ทำไมไม่ชอตลงมาตามกราฟ ทำไม  ทำไม ๆๆๆ นั่นสิทำไม ใครรู้ช่วยบอกทีครับ….

สำหรับอาทิตย์นี้ก็คาดหวังอีกเช่นเคย ว่ากราฟมันจะกลับทางมาเป็นขาขึ้นสักที ….