[Exit Strategy] Part 8: My Approach to Exits (3)
My Approach to Exits = วิธีการออกของฉัน (3)
กำหนดการออกข่าวเศรษฐกิจ
1.เมื่อถึงเวลากำหนดออกข่าวเศรษฐกิจ ซึ่งรู้กันอยู่แล้วว่า จะแกว่งตัวแรง ให้ปิดออเดอร์ให้หมด, ในกรณีถ้าออเดอร์กำไรอยู่ ก็ให้บีบ Stop Loss เข้ามาไว้ใกล้กว่าเดิม, ถ้าคาดการณ์ว่า จะแกว่งตัวสุดๆ (เช่น ข่าว Non-Farm ประจำเดือน หรือ อัตราดอกเบี้ย) อาจจะยกเลิกส่วนที่สองทิ้งไป (Note ผู้แปล: หมายถึง เขาจะปิดออเดอร์ในส่วนการบริหารออเดอร์ที่การออกขึ้นอยู่กับภาวะตลาด เพื่อหลบข่าว), นี่เป็นเรื่องจำเป็น มันเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ ก็ช่วยเพิ่มความยืนหยุ่นที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการออก ให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาดได้
ผมเคยกล่าวไว้แล้วว่า กลยุตธ์การออกแบบนี้ เป็นวิธีที่ผมเห็นว่า มีประสิทธิภาพมากที่สุด แม้ว่ามันไม่ใช่วิธีที่กำไรเยอะที่สุด, ที่จริงจากการทดสอบพบว่า ถ้าผมออกด้วย ส่วนที่สองอย่างเดียว (แบบที่การออกขึ้นอยู่กับสภาวะของตลาด) จะให้ได้กำไรที่ดีขึ้นกว่าเดิม, แต่ผมก็ชอบแบบที่ใช้อยู่ปัจจุบัน เพราะมันเหมาะกับจิตวิทยาของผม เนื่องจากผมต้องการกำไรอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าจะได้น้อยกว่าก็ตาม
เพราะจิตวิทยาแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่า วิธีออกของผม จะเข้ากันได้กับวิธีการเทรดของคุณเลยสักนิด ดังนั้น ให้รับเอาส่วนที่คุณรู้สึกว่าชอบ และ ทดสอบมันว่าเหมาะกับวิธีการเทรดของคุณหรือไม่, กุญแจสำคัญอยู่ที่ “ทดสอบ”, ขอให้ทดสอบทุกอย่างให้เพียงพอ ก่อนจะเอาไปใช้จริงเสมอ
การออกแบบแบ่งออเดอร์ของผม มีส่วนประกอบย่อยๆหลายส่วน และ แต่ละส่วนสามารถปรับเปลี่ยนได้ ดังนั้น ให้รับเฉพาะบางส่วนแล้วเอาไปปรับให้เข้ากับตัวคุณ และ อย่าจำกัดอยู่กับแค่การทดสอบแบบ แบ่งออเดอร์เพียงอย่างเดียว ทำไมไม่ลองทดสอบ ขนาดของออเดอร์ที่แตกต่าง ในส่วนต่างๆ ที่ราคาต่างๆด้วยละ ? (Note ผู้แปล : เขาต้องการสื่อว่า ให้ทดสอบ แปรค่าหลายๆ Factor ดูด้วยเผื่อจะเจอแบบที่ใช่กับตัวเอง)
ตัวอย่างการมีระบบที่เหมาะสมกับจิตวิทยาของตนเอง ซึ่งสอนใน Advance Technical Class by Rojer FX
คำแนะนำจากผู้เชียวชาญ
ผมหวังว่าคุณจะได้ประโยชน์บ้างแล้วเมื่ออ่านถึงตรงนี้, ผมอยากจะตบท้ายด้วยการขอบคุณอาจารย์ทั้งหลายของผม ที่มีส่วนในการประสิทธิ์ประสาทความรู้ และขัดเกลาความเชื่อเกี่ยวกับการเทรดของผม จนได้ระบบบริหาร และ วิธีการออกของผมนี้, ผมจะขอบคุณด้วยการนำคำพูดของพวกท่านอาจารย์เกี่ยวกับเรื่อง เทคนิคการออก มาถ่ายทอดให้ผู้อ่านไปด้วยในตัว
Larry Williams จาก “Long Term Secrets to Short Term Trading”
- ผมมีระบบความเชื่อ ที่แข็งแกร่ง และ ทำกำไรได้ จากประสบการณ์ของผม : เมื่อผมเข้าออเดอร์แล้ว ผมจะถือว่า เป็นออเดอร์ที่ผมจะแพ้, คิดไว้ว่าผมเป็นคนขี้แพ้อย่างนี้แหละ (Note ผู้แปล : ผมคิดว่าเขาจะสื่อว่า การแพ้เป็นส่วนหนึ่งของการเทรด และ พร้อมจะ cut loss เพื่อยอมแพ้ทุกเมื่อ แบบ ไม่ดื้อ ฝืนทนถือ ถ้าคิดว่าตัวเองแพ้แล้ว)
- ทุกครั้งที่บาดเจ็บหนัก ล้วนเกิดจากความคิดว่า ออเดอร์นี้ผมจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งจะทำให้ผมเริ่มเล่นนอกแผน, เหมือนที่พูดไว้ข้างบนว่า ถ้าคุณคิดว่าคุณจะเป็นฝ่ายแพ้แต่แรก เชื่อสิว่าคุณจะป้องกันตัวได้อย่างดีเสมอ
Mike Reed, จากบทความยอดเยี่ยมทั้งหลายจากเวปไซด์ และ หนังสือของเขา "Read the Greed"
- สิ่งที่คุณต้องคิดเสมอคือ “จำกัดความเสี่ยง” ผมสนใจสิ่งนี้มากกว่าทุกอย่างในการเทรด
- เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จทุกคนที่ผมรู้จัก มีวิธีการหนีออกก่อน ในกรณีการเทรดเริ่มส่อแววแย่
- ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางใดก็ตาม การระบุวิธีออกเมื่อแพ้ เป็นกุญแจของการเทรด
- อย่าปล่อยให้ออเดอร์กำไร ย้อนกลายเป็น ขาดทุนเด็ดขาด, แม้ว่าการพยายามทำแบบนั้นจะก่อให้เกิดอาการตกรถก็ตาม (ออกเร็วก่อนเทรนจริง) คุณก็ต้องยอมรับมันได้, การเฝ้าหวังแจ๊คพอร์ต จะทำลายการเทรดของคุณ (ความโลภ), มันไม่มีสูตรคณิตศาสตร์ใดๆที่จะใช้ได้ในการออก (เช่น ย้าย Stop มาที่เท่าทุน หลังจากคุณได้กำไร 3 pip), คุณต้องพัฒนาทักษะที่จะบอกได้ด้วยความรุ้สึกว่า ตลาดตอนนี้กำลังเคลื่อนไหวอย่างไรอยู่ แล้ว ใช้ทักษะความรู้สึกนั้น ในการปรับ Target หรือ เลื่อน Stop, สิ่งเหล่านี้จะมาจากประสบการณ์ (Note ผู้แปล : อย่างที่ผมสอนใน Advance Technical Class ว่า Price Action บางเรื่องมันถ่ายทอดไม่ได้ เพราะว่า รายละเอียดและความแปรปรวนมันมากเกินจะมาเขียนออกมาเป็นข้อๆ แล้วเอามาสอน ถ้าจะทำแบบนั้น เรื่องหนึ่งๆ อาจจะต้องสอนให้ดูสองร้อยรูปแบบ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ)
- พูดให้ง่ายคือ ถ้าความได้เปรียบหายไป ให้เผ่นซะ
เมื่อผมจะเข้าออเดอร์ ผมเข้าก็ต่อเมื่อผมได้เปรียบ แล้วนาฬิกาก็จะเริ่มหมุน, ถ้าผมเข้าถูกทาง ราคาควรจะวิ่งตามทิศของผมในไม่ช้า, เราไม่ควรคิดเอาเองไว้ก่อนว่า เราถูกทาง แล้วปล่อยให้ราคาวิ่งทางตรงข้ามไปเรื่อยๆ เพียงเพราะอยากจะเป็นฝ่ายถูก, สิ่งที่ควรทำในกรณีแบบนั้นคือ ควรจะประเมินว่า เราอยู่ผิดทางแล้ว และออกทันที, คุณจะต้องอยู่บนความคิดเบื้องต้นว่า เราอยู่ผิดทางไว้ก่อน และ อย่าปรับมาคิดว่า เราอยู่ถูกทาง จนกว่าจะมีหลักฐานที่หนักแน่นพอ
Larry Conners and Linda Rashcke, จาก "Street Smarts":
- เป้ามายหลักของการเทรด คือ การลดความเสี่ยงให้น้อยสุด ไม่ใช่ การทำกำไรให้มากสุด
- จำไว้ว่าทั้ง การเทรดแบบสั้น และ การเทรดด้วยระบบ, ผลกำไรหลักๆจากการเทรดในแต่ละเดือนนั้น มักมาจากออเดอร์ส่วนมาก (ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่) ที่ตัดสินกันด้วย pip เพียงล็กน้อย (ส่วนกำไรจากออเดอร์ใหญ่ๆ จะมีแค่สองสามครั้งต่อเดือน) จึงเป็นสิ่งที่สำคัญว่าออเดอร์ส่วนใหญ่ เวลาแพ้ ก็ต้องให้ความเสียหายนั้นเล็กด้วย
- ถ้าคุณจำกัดการแพ้ให้น้อยที่สุดไว้ได้ทุกออเดอร์ คุณจะชนะ 80%
- จงดีใจ ถ้าได้กำไรแจ๊คพอร์ต แต่ อย่าไปเฝ้าคอยมัน, ตลาดจะเป็นผุ้กำหนดว่าจะให้กำไรมากแค่ไหน, ส่วนตัวเรากำหนดได้ในเรื่อง ขาดทุนมากแค่ไหน
- ทักษะที่ดีที่สุด คือเรื่อง ทำอย่างไรไม่ให้เสียเงิน
- มันอาจจะไม่มี Perfect Exit Strategy, แต่หลักการคือ คุณต้องปิดทำกำไรเมื่อมีกำไร แม้ว่ามันจะหมายถึงการออกเร็วไป (ตกรถ)
- ผุ้คนมักจะทำผิด ในลักษณะไปจดจ่อกับออเดอร์หนึ่งๆ ซึ่งเป็นแค่ หนึ่งในออเดอร์ทั้งหมด 20 ออเดอร์ของเงินทั้งหมด และไม่สนใจ อีก 19 ออเดอร์ที่เหลือ (Note ผู้แปล : คงหมายถึงว่า การชนะ หรือแพ้ ออเดอร์หนึ่งๆ ก็เป็นแค่ส่วนเดียว อย่าเก็บมาเป็นอามรณ์ ที่จะกระทบต่อการเทรดครั้งต่อๆไป)
ตอนหน้า จะมาสรุปบทความทั้งหมดจากเล่มนี้ จะพยายามให้ออกมาในลักษณะรูปธรรมมากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อที่จะเอาไปใช้ได้จริง ในสถานการณ์จริงกัน
----------- แปลโดย Rojer FX, http://www.facebook.com/rojer.fx.3 , จบ Part 8 --------