วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555

[Exit Strategy] Part 1 : There is no “PERFECT EXIT” strategy (1)-กำหนดจุดออก1

The importance of Exit Strategy

บทความนี้คัดลอกมาจากบทความของคุณ Rojer Fx เจ้าของบล็อก cmforex.blogspot.com ต้องขอขอบคุณมากครับ ที่แปลบทความดี ๆ ให้เราคนไทยได้อ่านกัน

Article 1 part 1 : There is no “PERFECT EXIT” strategy

ในการเทรดคนส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับ “จุดเข้า” มากกว่า “จุดออก”, เห็นได้จาก ถ้าลองไปที่Forum ของเวปเทรดใดๆ จะเห็นแต่พูดถึงกันแต่ วิธีเข้าใหม่ๆ, น้อยมากที่จะพูดถึง การออก กัน

                ผม(ผู้แต่ง Lance Beggs) เชื่อว่า “การออก” เป็นสิ่งที่มีผลต่อความสำเร็จในการเทรด มากกว่า “การเข้า”

ตัวอย่างในรูป 1, สมมุติว่า เราใช้ระบบ EMA cross, เมื่อเส้น EMA แดง ข้ามเส้นน้ำเงินขึ้นมา

เราก็เปิด Long หลังจากจบแท่งเขียว ทำให้ได้ราคาเข้าที่ 1.9727,

ถ้าใช้ stop ที่แคบ เราก็ตั้งที่ S/L 1 ด้วยเหตุผลคือ swing low ล่าสุด, แบบนี้ คือ Stop แคบ

ถ้าใช้ stop ที่กว้างขึ้นมาก็ตั้งที่ S/L 2 ที่ตำแหน่ง swing low ชุดก่อนหน้า บริเวณ 1.9700,  แบบนี้ คือ Stop กว้าง

อีกสักครู่เราจะมาดูกันว่า การตั้ง S/L ทั้งสองแบบนี้ (Stop แคบ กับ กว้าง) จะให้ผลเช่นไร

                ถ้าเราตั้ง Target ที่ บริเวณ A  = 1.9750 , ด้วยเหตุผลว่า มักจะมีการพักของราคาที่ตัวเลขกลมๆ, แบบนี้ เรียกว่า “การกำหนดเป้าล่วงหน้า” , ซึ่งครั้งนี้ถ้ าเราใช้วิธีนี้ เราก็จะได้กำไร

ถ้าราคาขึ้นมาพอสมควร แล้วเราเลื่อน Stop Loss ตามขึ้นมาที่จุดที่เราเข้า 1.9727 ไม่ว่าจาก S/L1 หรือ S/L2ก็ตาม แบบนี้เรียกว่า “Trailing Stop” หรือชื่อไทยก็ “วิธีเลื่อน Stop ตาม”, ถ้าเราใช้วิธีนี้ เราก็จะโดน stop ออกไปบริเวณ B,ซึ่งก็ยังถือว่าไม่เลวนัก แม้ว่าจะได้แค่เท่าทุน

ถ้าเราไม่เลื่อน SL ขึ้นมา = จุดเข้า 1.9727, เราก็จะมีโอกาสได้ออกที่ C อีกครั้ง ที่ราคาประมาณ 1.9750, ก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ยังกำไร แต่ถ้าเราไม่ออกที่จุด C เพราะไปยึดหลักว่า Let Profit run, ซึ่งหลักการแบบนี้ต้องใช้วิธี Trailing Stopตาม swing ที่ขึ้นมาด้วย (เลื่อน S/L ขึ้นมาที่บริเวณ B) ก็จะทำให้เราโดน Stop out ที่จุด D ซึ่งขาดทุนเล็กน้อย, ซึ่งหากเทียบกันแล้ว การขาดทุนเล็กน้อยแบบนี้ ย่อมดีกว่า การขาดทุนหนักๆ แบบข้างล่าง

ถ้าเราไม่เลื่อน S/L ขึ้นมา ก็จะทำให้ไปโดน stop ที่ E = S/L1 และ F = S/L2,

เมื่อราคาวิ่งลงมาต่ำกว่า S/L 2 แต่ ถ้าไม่ยอมคัทลอส ที่ F = S/L2, ทนถือออเดอร์ต่อ ด้วยความหวังว่า ราคาจะกลับทิศขึ้นไป แบบนี้เรียก “การพนัน”, ซึ่งครั้งนี้โชคดี เพราะบังเอิญมีข่าวเศรษฐกิจออกมา แล้ว ทำให้ราคาวิ่งขึ้นไป

ทีนี้มาวิเคราะห์กัน ว่าการใช้ Stop Loss แบบไหนดีที่สุด, วิธีที่ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในครั้งนี้คือ วิธีพนัน(ไม่มีStop Loss เลย) แต่ว่า วิธีแบบนี้ ไม่มีเทรดเดอร์อาชีพคนไหน ที่จะมองว่าเป็นวิธีที่ถูกต้องเด็ดขาด, เพราะตลาดอาจจะวิ่งไปในทางตรงข้ามอย่างรุนแรงได้ทุกเมื่อ ซึ่งหากยังใช้วิธีการพนันเรื่อยๆ มันเป็นการก้าวเข้าใกล้สู่ความล้มเหลวในการเทรดในที่สุด

สำหรับ คนที่คิดจะใช้ Risk Management, วิธีการที่ถูกต้องคือ การออกตามแผนที่วางไว้ล่วงหน้าก่อนเข้าออเดอร์ (ที่ A = 1.9750),ซึ่งครั้งนี้ ชนะ วิธีการเลื่อน Trailing Stop

ส่วนการเลือก Stop ช่วงแคบๆ = S/L1 ก็เห็นได้ชัดว่า ดีกว่า การใช้ stop ช่วงกว้าง = S/L2 ด้วยเหตุผลว่า เราได้จำกัดความเสี่ยงของเราไว้ให้ต่ำที่สุด เมื่อตลาดไม่สามารถขึ้นไปตามที่เราหวังไว้ได้

--------------------------------------------------------------------------------------

เรามาลองดู ตัวอย่างอีกอัน ในรูป 2, มันเป็นกราฟเดียวกัน กับรูปที่แล้ว แต่เลื่อนเวลาไปข้างหน้าเล็กน้อย

ครั้งนี้ หลังจาก EMA แดง ตัด น้ำเงินลงมาล่าง (บริเวณ S/L 1), อีกทั้งเห็นว่าราคาไม่สามาถฝ่า 1.9750 ขึ้นไปได้ถึงสองครั้ง และตามมาด้วยการได้เห็น Lower Low เรื่อยๆ, เราจึงสามารถตัดสินใจ เข้า Short ที่บริเวณ 1.9715, แล้วก็ใช้ stop แบบแคบ = S/L1 (บริเวณด้านบนของโดจิ) , Stop แบบกว้าง = S/L2 (บริเวณ High เดิม)

มาดูกันว่า คราวนี้แบบไหนจะดีกว่ากัน [Stop แคบ หรือ Stop กว้าง], [ออกที่ เป้าที่กำหนดไว้ล่วงหน้า หรือTrailing Stop]

ถ้าใช้ เป้าที่กำหนดล่วงหน้า ที่ตัวเลขกลมๆ A = 1.9700, ครั้งนี้เราก็จะได้กำไร

ถ้าเรารอดูอีกนิด ว่า จะทะลุเลขกลมๆได้ไหม แต่ปรากฏว่าไม่ทะลุ แล้วย้อนขึ้นไป เราก็อาจจะออกที่ B, ซึ่งก็กำไรเช่นกันและ พอๆกับ A (ซึ่ง B ก็ถือว่าเป็นระบบ เป้าล่วงหน้าเหมือน A)

ถ้าเราไม่ได้ กำหนดเป้าไว้ล่วงหน้า แล้ว ใช้ Trailing Stop, เราก็คงจะได้ออกที่ C = ราคาทุน, แต่ถ้าไม่เลื่อนTrailing Stop ก็จะได้ออกที่ D = S/L1 หรือ E=S/L2

ส่วนถ้าใครเล่นแบบพนัน คือไม่ตั้ง Stop Loss ก็จะบาดเจ็บอย่างหนัก อาจจะเป็นการเทรดครั้งสุดท้ายในชีวิตเลยด้วยซ้ำไป

ส่วนการเปรียบเทียบระหว่าง Stop แคบ กับ กว้าง, ในครั้งนี้ ก็ยังพบว่า Stop แคบ ให้ผลดีกว่า Stop กว้าง, และ การตั้งเป้าล่วงหน้า ก็ดีกว่า การใช้ Trailing Stop
แต่ ผลการตัดสิน ระหว่าง Stop แคบ กับ กว้าง, และ การตั้งเป้าล่วงหน้า กับ Trailing Stop ไม่ใช่ว่า Stop แคบจะชนะเสมอไป, เช่นเดียวกับ การตั้งเป้าล่วงหน้า ก็ไม่ใช่จะชนะ Trailing Stop เสมอไปเช่นเดียวกัน

ตอนหน้า เราจะมาดูกัน ว่า ถ้ากราฟมีหน้าตาเปลี่ยนไป ใครจะชนะกันแน่ ระหว่าง คู่ชก สองคู่นั้น (Stop แคบVS กว้าง) กับ (กำหนดเป้าล่วงหน้า VS Trailing Stop)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น