วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

[Exit Strategy] Part 4: My Exit Beliefs (2)

[Exit Strategy] Part 4: My Exit Beliefs (2)

ในตอนที่แล้ว ได้พูดถึง หลักการและความเชื่อส่วนตัวของผู้แต่งสามข้อ ที่เขาใช้ในการสร้าง ระบบออก, ตอนนี้จะมาพูดถึงความเชื่อเหล่านั้นต่ออีกสามข้อ

ความเชื่อ #4 : แผนที่ใช้ออก ต้องออกแบบให้เหมาะกับจริตของตัวเอง

เรื่องนี้ น่าจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในเรื่องการออกเลย ถ้าคุณไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยจากบทความนี้ อย่างน้อยก็ขอให้ได้เรื่องนี้ไปละกัน

หลักการสำคัญคือ อย่าไปพยายามหาระบบออกที่ได้ผลประโยชน์สูงสุด, ให้หาระบบออกที่เข้ากันได้กับจิตวิทยาการเทรดของคุณแทน

- ถ้าคุณเป็นพวก กลัวการตกรถครั้งใหญ่ คุณต้องพิจารณาการใช้ Stop Loss แบบกว้าง เพื่อให้แน่ใจว่า คุณจะไม่โดน stop ตอนแกว่ง ก่อนจะวิ่งครั้งใหญ่ จากนั้น ถ้ากราฟวิ่งถูกทาง ให้ใช้ Trailing Stop เลื่อนตามกราฟ ด้วยวิธีนี้ จะทำให้คุณอยู่ในเทรนได้ตลอด, แต่แน่นอนว่า การเลือกใช้ Stop Loss แบบกว้างนี้ มาพร้อมกับข้อเสียที่ต้องยอมรับ คือ เปอร์เซ็นต์การชนะที่ต่ำลง

- ถ้าคุณเป็นพวกที่ กลัวว่า ออเดอร์ที่กำลังเป็นบวกอยู่ดีๆ กลายเป็นลบ, แบบนี้ต้องใช้วิธี คอยเลื่อน Stop Lossขึ้นมาถี่ๆ, ซึ่งก็ต้องแลกกับการที่ จะโดน stop บ่อยขึ้น จนทำให้เสียโอกาสที่จะได้เก็บเทรนใหญ่ๆ   คุณจะได้เห็นตัวอย่างใน บทที่ 3 ว่า ผมได้ออกแบบวิธีออกให้เหมาะกับจิตวิทยาของผมไว้อย่างไร

(รูปจากผู้แปล : ตัวอย่างการเลื่อน Stop Loss ที่ผมสอนใน Advance Forex Class by ROJER FXhttp://www.facebook.com/rojer.fx.3)

ความเชื่อ #5 : การป้องกัน สำคัญกว่า การบุก

เป้าหมายเบื้องต้นของเทรดเดอร์ทุกคนคือ การไม่ตายออกจากตลาด, เราต้องมั่นใจได้ว่า พรุ่งนี้เราก็จะยังเทรดอยู่ในตลาดได้ต่อไป

การเทรดแต่ละครั้ง จะมีจุดจบได้ 5 รูปแบบดังนี้

1.ชนะครั้งใหญ่

2.แพ้ครั้งใหญ่

3.เท่าทุน

4.ชนะเล็กๆ

5.แพ้เล็กๆ

ตลาดจะมีธรรมชาติหนึ่งที่แน่นอนที่สุดคือ “ความไม่แน่นอน” ไม่ว่าคุณจะวิเคราะห์ได้เก่งแค่ไหน คุณก็ยังต้องพบกับปัจจัยความไม่แน่นอนนี้ ฉะนั้นบางครั้งคุณก็จะแพ้อย่างเลี่ยงไม่ได้, เมื่อรู้ว่า เราคุมความแน่นอนไม่ได้ แล้วควบคุมอะไรได้ ? คำตอบคือ คุณสามารถที่จะควบคุม กำไรของคุณเองได้ กล่าวคือ ถ้าตลาดมอบโอกาสที่จะเก็บกำไรให้ โดยมาทางเดียวกับคุณ, แผนการออกของคุณ จะเป็นตัวกำหนดว่า คุณจะได้กำไรมากน้อยแค่ไหน, นั่นคือ คุณควบคุมปริมาณการเคลื่อนไหวของตลาดไม่ได้ว่าอยากให้มันวิ่งไปไกลแค่ไหน สิ่งที่คุณก็ควบคุมได้ก้มีแค่ ส่วนที่ต่อจากตลาดอีกที ว่า ถ้าตลาดวิ่งไปทางเดียวกับคุณแล้ว คุณจะเลือกรับกำไรมากแค่ไหนแค่นั้น (Note ผู้แปล : เช่นตลาดวิ่งถูกทางกับคุณ 200pip, คุณไปบังคับตลาดให้วิ่งมากหรือน้อยกว่า 200 pip ไม่ได้, แต่คุณเลือกแผนการออกได้ว่า จะเสี่ยงน้อยรับแค่ 50 pipโดยไม่ต้องทนการแกว่งเลย, หรือ จะเสี่ยงรับ 150 pip โดยที่ต้องทนการแกว่ง ซึ่งอาจะลึกเข้ามาถึงแดนลบของคุณก่อน)

คุณวางแผนบุกได้ไม่เต็มที่เพราะความไม่แน่นอน แต่ ตอนวางแผนการรับนั้น พบว่าสิ่งที่คุณควบคุมได้เต็มๆคือ รูปแบบการแพ้ของคุณ, ถ้าคุณลงเอยด้วย การแพ้ครั้งใหญ่ นั่นก็เพราะคุณไม่ได้เลือกวิธีออกแบบ “แพ้เล็กๆ”, การแพ้ครั้งใหญ่ คือสิ่งที่จะทำให้คุณตายจากตลาดได้ ฉะนั้นถ้าคุณต้องการแน่ใจว่า คุณจะไม่ตายจากตลาด คุณก็ต้องเลือกเดินเส้นทางที่จะพบกับ ชนะเล็กๆ แต่ บ่อยๆ, แพ้เล็กๆ แต่ บ่อยๆ, เท่าทุนบ่อยๆ และ นานๆถึงจะชนะครั้งใหญ่สักที แต่ คุณจะไม่มีวันพบกับ การแพ้ครั้งใหญ่เลย, ฉะนั้น ถ้าคุณเน้นที่จะป้องกัน ไม่อยากตายจากตลาด ก็ต้องควบคุมความเสี่ยงไม่ให้เจอการแพ้ครั้งใหญ่ (Note ผู้แปล : หมายถึงว่า ต้องมีการใส่ stop loss ทุกออเดอร์ โดยที่ต้องวาง Stop Loss ไม่ให้กินทุนมากนัก)

ความเชื่อ #6 : รูปแบบการออก แต่ละแบบ ใช้ได้ดีกับ ตลาดที่แตกต่างกันไป

เราได้พิสูจน์กันจนเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ว่า

- ในตลาด sideway แกว่งตัว :  การออกด้วยวิธี ตั้งเป้าล่วงหน้า จะทำกำไรได้ดีกว่า แบบ Trailing Stop

- ในตลาดเป็นเทรนแบบราบเรียบ ไม่ค่อยแกว่ง: Trailing Stop จะทำกำไรได้ดีกว่า แบบ ตั้งเป้าล่วงหน้า

- ในตลาดที่เป็นเทรนที่แกว่งตัวรุนแรง : การออกด้วยวิธี ตั้งเป้าล่วงหน้า จะทำกำไรได้ดีกว่า Trailing Stop

เมื่อเข้าใจเรื่องนี้แล้ว เราต้องดุว่า ตลาดของเราเคลื่อนตัวแบบไหน ซึ่งจะส่งผลต่อ style การเทรด และ แผนการออก ของคุณ, ที่สำคัญสุดคืออย่าลืมคิดด้วยว่า วิธีออกที่คุณเลือก ยังเหมาะกับ นิสัยของคุณหรือเปล่า ?

--------------------- จบ Part 4 by Rojer FX http://www.facebook.com/rojer.fx.3--------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น